Menu

น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ 100%

Liên hệ

                       INTRODUCTION TO GAC OIL    

 Gac oil contains a large amount of very high nutrients, including Lycopen, Beta-carotene, vitamin C, vitamin E, fatty acids.  Gac oil contains lycopene that the body does not produce, the amount of this substance in Gac oil is 10 times higher than other foods containing lycopene.  Lycopene has a very good antioxidant effect, has the ability to protect the cardiovascular system and preserve the genome in the body.  Beta-carotene in Gac oil is a form of vitamin A pre-antioxidant, effective antioxidant and has the ability to add large amounts of vitamin A to the body.  Gac oil also contains vitamin E form alpha-tocopherol, is the most effective form of vitamin E, has strong anti-aging, anti-damage free radicals in the body.  In addition Gac oil also contains Omega 6, Omega 9 and many other trace elements.  In recent years, studies have also shown that Gac oil contains proteins that can prevent cancer cells.

 Uses of Gac oil: 1.  Gac oil effects in medicine:

- Gac oil works very well with the eyes because it contains pre-vitamin A beta-carotene, which helps to prevent eye dryness, lightens the eyes.

- Gac oil supplements a large amount of antioxidant nutrients and micronutrients in the body.

- Fight myocardial infarction, make strong and bloody.

 - Protect the body's genome.

- Support the development of reproductive organs.

 - Protect and develop the nervous system.

2. The effect of Gac oil in beauty:

 - Treatment of skin pigmentation: Gac oil contains large amounts of antioxidants, which can destroy free radicals that cause pigmentation.

 - Skin whitening: the vitamins E, C in Gac oil work to reduce the skin melanin, making healthy white skin bright.

 - Acne treatment: Gac oil is effective in treating hidden acne, effectively bulging acne spots.  At the same time reduces swelling to the blister burns, and eliminates the remaining acne bruises on the skin.

 - Protect the skin from harmful environmental agents such as dust, pollution ... avoid skin cancer.  Gac oil protects the skin from the sun effectively.

 - Anti-aging skin: Gac oil has strong antioxidant, rejuvenates the skin.

HOW TO USE Gac oil correctly Gac oil daily:

 Gac oil drink daily to replenish nutrients and beautify the skin from the inside.  Take 1 teaspoon Gac oil or eat with salad, soup.  You should eat raw Gac oil to best absorb its nutritional content.  Gac oil daily helps to supplement vitamin A to brighten the eyes, good for the cardiovascular system and increase the body's resistance.

 Gac oil capsule, take 4 tablets divided into 2 times a day for adults.  Children take 2 tablets daily or as directed by a doctor.

     Applying Gac oil overnight:

Take a few drops of oil into the palm, rub the palms together for Gac oil spread evenly on both palms and gently massage the skin, then leave Gac oil overnight.  You can use this method on skin areas to treat melasma very effectively.  Doing every night will see results from 3 to 4 days.

 


              GOLD GẤC - OMEGA3

 (น้ำมันฟักข้าวสกัดเข้มข้นและน้ำมันปลา)
ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของบริษัทผู้นำเข้า

 

วิธีรับประทาน :
Gac oil vietnam น้ำมันฟักข้าวสกัดเข้มข้นผสม DHA- OMEGA3
น้ำมันฟักข้าวสกัดเข้มข้นชนิดแคปซูล
เจ้าแรกในเมืองไทย
ทะเบียนอาหารและยา 10-3-17155-1-0001


รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า-เย็น
เด็กแรกเกิดตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป รับประทานวันละ 1 แคปซูล
สตรีมีครรภ์ รับประทานวันละ 1 แคปซูล
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการใช้รังสี และได้รับสารพิษจากการบริโภค
ที่มากเกินไป รับประทานวันละ 10 แคปซูล เพื่อช่วยปรับสภาพ ร่างกายให้ฟื้นฟูโดยเร็วยิ่งขึ้น


ส่วนประกอบ : ฟักข้าว
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
ราคาปกติ : 1,200.00

ฟักข้าวสกัดเฉพาะจากน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ด ที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก 
เช่น Beta Carotene, Lycopene, Vitamin A, Oleic acid, Palmitic acid, Linoleic acid, Omega-6, Omega-3 และเพิ่ม DHA ฯลฯ 
จึงเป็นการเสริมอาหารให้กับร่างกาย ให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน 
สามารถลดความเสี่ยง และป้องกันอาการของโรคมากมายที่อาจเกิดขึ้น

นวัตกรรมล่าสุดจากการค้นคว้าของนายแพทย์ชาวเวียดนาม Dr.Nguyen 
ที่อุทิศตนในการนำประโยชน์จากผลฟักข้าว หรือ Gac Fruit มาใช้ให้เกิดประโยชน์อ 

   ⇔  รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า-เย็
* ต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย
* ป้องกันการติดเชื้อ
* ช่วยบำรุงสายตา และบำรุงสมอง
* ช่วยป้องกันเยื่อนัยน์ตาแห้งที่มีสาเหตุจากสาระสำคัญในเรติน่า
* ลดความเสี่ยงจากโรคโลหิตจาง
* ช่วยป้องกัน และรักษาการติดเชื้อจากการใช้รังสี ได้รับสารพิษจากการที่บริโภคมากเกินไป และสารพิษต่างๆ 
ที่ปนเปื้อนอยู่ในผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ต่างๆ ทั้งนี้ยังช่วยปรับสภาพร่างกายให้ฟื้นฟูโดยเร็ว และป้องกันการเกิดสารก่อมะเร็ง
* ป้องกัน และรักษาอาการตับอักเสบ
* ช่วยกระตุ้นพัฒนาการ และการเติบโตของเด็กให้แข็งแรง
* ช่วยป้องกัน และบรรเทาการขาดวิตามิน และสารอาหารต่างๆ ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่
* ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
* ช่วยป้องกัน และยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง เช่น ตับ ต่อมลูกหมาก เต้านม กระเพาะ ปอด
* ชะลอความแก่ ป้องกันผิวหนังแห้งตกสะเก็ด บำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน แลดูมีสุขภาพดี
* ช่วยให้อัตราการเผาผลาญพลังงานสม่ำเสมอ และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารให้ดียิ่งขึ้น

มาตรฐานการรับรอง และรางวัลที่ได้รับ ของ 
gac oil vietnam น้ำมันฟักข้าวสกัดเข้มข้น

Facebook: gacoil vietnam

 

สรรพคุณสมุนไพรฟักข้าว ชื่อสมุนไพร : ฟักข้าว
ชื่อสามัญ (ชื่อภาษาอังกฤษ) : Gac, Spring Bitter Cucumber, Baby Jackfruit, Cochinchin Gourd, Spiny Bitter Gourd, Sweet Gourd
ชื่ออื่น : มะข้าว (แพร่), ขี้กาเครือ (ปัตตานี), พุกู้ต๊ะ (แม่ฮ่องสอน), ผักข้าว (ตาก ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Momordica cochinchinensis (Lour.) Spreng.
ชื่อวงศ์ : Cucurbitaceae
ส่วนที่ใช้ : ผล, ใบ, เมล็ด, ราก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เถาเลื้อย อายุหลายปี 
- ลำต้นหนาเกลี้ยง มีมือพันเกาะออกตามซอกใบ เถาแก่มีเหง้าใต้ดิน เถากลมมีขนนุ่ม เถาแก่ไม่มีขน 
- ใบเดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบไม่มีแฉก หรือเป็นแฉกรูปฝ่ามือ 3-5 แฉก รูปไข่ หรือเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 10-15 ซม. ปลายแฉกแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ ขอบเรียบ หรือกึ่งหยักซี่ฟัน ก้านใบยาว 2.8-5.5 ซม. มีต่อม 2-5 ต่อม ตามก้านใบและโคนใบ 
- ดอกแยกเพศต่างต้น ดอกเดี่ยว หรือออกเป็นกระจุกที่ซอกใบ ยาว 6-8 ซม. กลีบดอก 5 กลีบ สีขาวอมเหลืองอ่อน สามกลีบในมีสีดำบริเวณโคนดอกด้านใน ดอกเพศผู้ ก้านดอกยาว 5-15 ซม. ใบประดับรูปไตหรือเกือบกลม กว้าง 2.5-5 ซม. ยาว 2.8-3.2 ซม. ผิวด้านในมีขน กลีบเลี้ยง รูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 4-6 มม. ยาว 1-1.5 ซม. หนาคล้ายแผ่นหนังเกลี้ยง หรือมีขนสากประปราย กลีบดอกรูปรีแกมรูปขอบขนาน ยาว 4-5 ซม. มีเส้นตามยาวชัดเจน ดอกเพศเมีย ก้านดอกยาว 3-10 ซม. ใบประดับรูปรี กลีบเลี้ยงรูปแถบ แกมรูปขอบขนาน ยาว 5-10 มม. กลีบดอกเหมือนดอกเพศผู้ รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ยาว 1-1.5 ซม. ผิวมีตุ่มขรุขระ 
- ผลรูปไข่ รีหรือกลม กว้าง 5-8 ซม. ยาว 6-12 ซม. ผลอ่อนสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือแดง ผิวเป็นหนามสั้นทั้งผล 
- เมล็ดแบน รูปกลมหรือรี เปลือกหุ้มสีน้ำตาลดำ ขอบเมล็ดโดยรอบมีรอยหยัก ลักษณะเหมือนรอยถูกกัด ผิวมีลายเส้น เมล็ดมีจำนวนมาก มักขึ้นตามลำห้วย พบตามที่รกร้าง หรือชายป่าเบญจพรรณ ตั้งแต่ใกล้ระดับน้ำทะเลจนถึงที่สูงประมาณ 1,000 เมตร ออกดอก และเป็นผล ระหว่าง เดือนกุมภาพันธ์- เมษายน
สรรพคุณฟักข้าว (GAC)
การใช้ฟักข้าวในหลายๆ ประเทศ
ตำรายาไทย : 
- ใบฟักข้าว รสขมเย็น แก้ไข้ตัวร้อน ใบปรุงเป็นยาเขียวแก้ไข้ ถอนพิษอักเสบ ตำพอกแก้ปวดหลัง แก้กระดูกเดาะ ใบสดตำพอกแก้ฝี แก้พิษต่างๆ ใบอ่อนและราก ต้มเป็นยาขมแก้ไข้ ราก รสเบื่อเย็น ใช้ถอนพิษ รากต้มดื่มถอนพิษทั้งปวง ถอนพิษไข้ ขับเสมหะ แก้เข้าข้อ ปวดตามข้อ ใช้ทำให้เกิดฟองในน้ำใช้แทนสบู่ และใช้ฆ่าเหา แช่น้ำสระผม แก้ผมร่วง เมล็ด รสมันเมาเย็น 
- เมล็ดฟักข้าวดิบ เป็นพิษร้ายแรง ทำให้ลิ้นแข็ง ต้องเผาหรือทอดให้สุก เมล็ดที่ใช้ทำยาจะคั่วให้กรอบก่อน กินบำรุงปอด แก้ฝีในปอด รักษาวัณโรค แก้ไอ ขับปัสสาวะ แก้ท่อน้ำดีอุดตัน เมล็ดใช้รักษาหูด แผลฝีหนอง และแผลพุพอง รักษาริดสีดวงทวาร เมล็ด มีน้ำมัน ใช้ทำเทียนไขให้ความสว่าง ใช้เป็นน้ำมันขัดเงา ผลอ่อน ใบอ่อน และดอก ใช้ลวก ต้ม นึ่ง แล้วรับประทานเป็นผัก หรือใส่ในแกง

ชาวเวียดนามใช้เยื่อหุ้มเมล็ด เพื่อให้สีแก่ข้าวเหนียวที่นำไปนึ่ง และนำฟักข้าวมาปรุงอาหารในเทศกาลปีใหม่ งานมงคลสมรส โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮานอย พบว่า น้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ  นอกจากในประเทศไทยแล้ว เรายังสามารถพบ "ฟักข้าว" ได้ในอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย ทั้งประเทศจีน พม่า ไทย ลาว บังกลาเทศ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งแต่ละประเทศก็รู้จักสรรพคุณของ "ฟักข้าว" เป็นอย่างดี และนำ "ฟักข้าว" มาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ กัน อย่างเช่น

- ประเทศจีน นิยมนำเมล็ดแก่ของฟักข้าวมาบดให้แห้ง นำไปผสมน้ำมัน หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วทาผิวหนังบริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม จะช่วยรักษาอาการบวมได้ นอกจากนั้น ยังช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน ฟกช้ำ แก้อาการผื่นคัน โรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ด้วย
- ประเทศเวียดนาม ชาวเวียดนามใช้เยื่อหุ้มเมล็ด เพื่อให้สีแก่ข้าวเหนียวที่นำไปนึ่ง นำมาปรุงอาหารในเทศกาลปีใหม่ และงานมงคลสมรส โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮานอย พบว่า น้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ
- ประเทศฟิลิปปินส์ นำรากฟักข้าวมาบดแล้วนำไปหมักผม เพื่อช่วยให้ผมดก และยังสามารถกำจัดเหาได้ด้วย ซึ่งในประเพณีล้านนาของไทยก็มีการนำฟักข้าวไปสระผมเช่นกัน เพื่อช่วยแก้อาการคันศีรษะ แก้รังแค แก้ผมร่วง และช่วยให้ผมดกดำขึ้น

 

1. ฟักข้าวมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
2. ฟักข้าวช่วยในการชะลอวัย ป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
3. ฟักข้าวมีเบต้าแคโรทีนสูงกว่าแครอท 10 เท่า และมีไลโคพีนมากกว่ามะเขือเทศ 12 เท่า
4. ฟักข้าวช่วยบำรุง และรักษาสายตา ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา โรคต้อกระจก ประสาทตาเสื่อม ตาบอดตอนกลางคืน
5. ฟักข้าวช่วยป้องกันโรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจขาดเลือด
6. ช่วยป้องกัน และช่วยยับยั้งการเกิดลิ่มเลือดในเส้นเลือด
7. ช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
8. งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า ฟักข้าวมีโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อเอดส์ (HIV) และยังช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย ซึ่งได้ทำการจดสิทธิบัตรในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
9. ฟักข้าวมีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง ไวรัส ช่วยยับยั้งระดับน้ำตาลในเลือด และยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน
10. ช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร และมะเร็งปอด
11. งานวิจัยของมหาวิทยาลับฮานอย พบว่า น้ำมันจากเยื่อหุ้มเมล็ดของฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ
12. ช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้
13. ช่วยในการขับเสมหะ ใช้กลั้วคอช่วยลดอาการเจ็บคอ หรืออาการอักเสบที่ลำคอ
14. เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะพักฟื้น หรือผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ มีโรคประจำตัว หรือร่างกายอ่อนแอ
15. ผลอ่อน และใบอ่อน ช่วยลดน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวานได้
16. เมล็ดฟักข้าวช่วยบำรุงปอด ช่วยแก้ฝีในปอด
17. ใบฟักข้าวมีรสขมเย็น มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ตัวร้อนได้ 
18. รากช่วยถอนพิษไข้ ต้มดื่มถอนพิษทั้งปวงได้ 
19. ช่วยขับเสมหะ
20. ช่วยแก้ท่อน้ำดีอุดตัน
21. ช่วยขับปัสสาวะ
22. ใบฟักข้าวช่วยถอนพิษอักเสบ 
23. ใบฟักข้าวใช้ตำพอกแก้อาการปวดหลัง แก้กระดูกเดาะ 
24. ใบฟักข้าวสดใช้ตำพอกแก้ฝี แก้พิษต่างๆ 
25. รากช่วยแก้อาการปวดตามข้อ
26. รากช่วยฆ่าเหา ช่วยแก้อาการผมร่วง 
27. เมล็ดฟักข้าวช่วยรักษาวัณโรค แก้ไอ ด้วยการคั่วให้กรอบก่อนกิน (เมล็ดฟักข้าวดิบ เป็นพิษร้ายแรง)
28. เมล็ดฟักข้าวคั่วกรอบช่วยขับปัสสาวะ แก้ท่อน้ำดีอุดตัน 
29. เมล็ดฟักข้าวช่วยรักษาริดสีดวงทวาร แก้แผลฝีหนอง และแผลพุพอง
30. ฟักข้าวช่วยบำรุงผิวพรรณ ป้องกันผิวหนังแห้ง
31. ฟักข้าวช่วยกระตุ้นพัฒนาการ และการเติบโตของเด็กให้แข็งแรง
32. ฟักข้าวช่วยป้องกัน และรักษาการติดเชื้อในการฉายรังสี
33. ฟักข้าวช่วยป้องกันการได้รับสารพิษในผัก ผลไม้ต่างๆ
34. ฟักข้าวช่วยป้องกัน และรักษาตับอักเสบ
35. ช่วยป้องกัน และบรรเทาการขาดวิตามิน สารอาหารต่างๆ
ต้นและใบฟักข้าว
ลักษณะวิสัยฟักข้าว
ดอกฟักข้าว

                          

 

ทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า ไลโคปีนจากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวเป็นสารต้านมะเร็ง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนั้นหากจะบอกว่า ฟักข้าว เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ต้านมะเร็งได้ดี ก็คงไม่ผิดนัก

สำหรับในประเทศไทยนั้น คณะนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ได้ร่วมกันศึกษาเรื่องการนำน้ำมันของเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมัน ระดับนาโน มาพัฒนาเป็นเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจากการทดสอบได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และทำให้งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัล "IFSCC Host Society Award 2011" จากงานประชุมสมาพันธ์นักเคมีเครื่องสำอางนานาชาติ 2011 (IFSCC 2011)

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดลเกี่ยวกับสรรพคุณของเมล็ดฟักข้าว พบโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อเอชไอวี (HIV) เอดส์ และยับยั้งเซลล์มะเร็ง ในประเทศไทยมีการจดสิทธิบัตรแล้ว

งานวิจัยในประเทศจีนพบว่าโปรตีนจากเมล็ดฟักข้าวมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ตับในหลอดทดลอง เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของฤทธิ์ทางชีวภาพของเมล็ดฟักข้าว ถือว่าลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ จึงมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ เมล็ดฟักข้าวเป็นส่วนผสมของยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ และคลายกล้ามเนื้อในเครื่องยาจีนหลายตำรับ

งานวิจัยทางคลีนิกที่มหาวิทยาลัยฮานอย พบว่าน้ำมันจากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ

งานวิจัยในประเทศญี่ปุ่น พบว่า โปรตีนจากสารสกัดน้ำของผลฟักข้าวยับยั้งการเจริญของก้อนมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูทดลอง โดยลดการแผ่ขยายของหลอดเลือดรอบก้อนมะเร็ง และชะลอการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งดังกล่าว ในห้องทดลอง น้ำสกัดผลฟักข้าวยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยการทำให้เซลล์แตกตาย

และยังมีงานวิจัยอื่นๆ ทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศพบว่า เมล็ดแก่ของฟักข้าวมีโปรตีน มอร์มอโคลซิน-เอส และโคลซินิน-บี มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของไรโบโซม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกรดอะมิโน และต้านการเจริญของเซลล์มะเร็งหลายชนิดในหลอดทดลอง ซึ่งอาจนำไปใช้พัฒนา เภสัชภัณฑ์ได้
ผลการศึกษาวิจัย
ฟักข้าวมีไลโคฟีนมากกว่ามะเขือเทศ 70 เท่า
ฟักข้าวมีเบต้าแคโรทีนสูงกว่าในแครอท 10 เท่า ฟักข้าวมีวิตามินซี มากกว่าส้ม 60 เท่า ฟักข้าวมีสารซีแซนทีน มากกว่าข้าวโพด 40 เท่า

 

1
Chát với chúng tôi